หมอนเพื่อสุขภาพกับหมอนทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร

หมอนเพื่อสุขภาพกับหมอนทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร ในการนอนนั้นนอกจากเลือกที่นอนให้ถูกสุขลักษณะแล้ว หมอนที่หนุนคอก็เป็นอีกอย่างที่ต้องเลือกให้ดี เพราะมีกระดูกที่ต่อเนื่องกับกระดูกสันหลังของเรา หมอนไม่ดี แม้ที่นอนจะดีอย่างไรก็หลับไม่สบาย แม้ดูเผินๆ จะเหมือนแค่รองรับศีรษะ รองรับคอ แต่แท้ที่จริงแล้ว หมอนยังช่วยในการจัดสะโพก หลังและคอของเราเข้าที่และทำให้กระดูกสันหลังของเรารักษาระดับตรงด้วย สำคัญขนาดนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่า ควรเลือกหมอนอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครๆ ก็แนะนำให้ใช้หมอนสุขภาพ ดีกว่าหมอนทั่วไปจริงหรือ ดีกว่าอย่างไร มาดูกัน

1. หมอนทั่วไป ทรงสี่เหลี่ยมยัดด้วยนุ่นหรือฟองน้ำ ซึ่งทั้งสองแนวมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ หมอนนุ่นเก็บฝุ่น หมอนฟองน้ำจะเละและไม่เป็นรูปทรง

2. หมอนสุขภาพ ชื่อว่าหมอนสุขภาพแล้ว จะมีความแตกต่างจากหมอนทั่วไปตั้งแต่รูปของตัวหมอน ที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยม บางทีจะทำเป็นรูปทรงกระบอกให้มีขนาดพอเหมาะกับคอ หรือมีการออกแบบให้รองรับส่วนคอและส่วนศีรษะโดยให้มีความต่างระดับเป็นต้น นอกจากนั้นก็คือวัสดุที่ใช้ใส่ในหมอนที่ทำให้บอกว่า นี่คือ หมอนสุขภาพ

แนวทางการเลือกซื้อหมอนสุขภาพ

หมอนสุขภาพมีความต่างกับหมอนทั่วไปตรงที่มีรูปทรงที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะกับการรองรับคอได้ดีกว่า และวัสดุภายในดีกว่า แต่ก็ยังมีความต่างกันในบรรดาหมอนสุขภาพด้วยกัน เพราะฉะนั้นหากต้องเลือกหมอนสุขภาพมาใช้สักใบ ก็ต้องเลือกอยู่เหมือนกัน

จริงๆ แล้วหมอนสุขภาพที่เราควรใช้มิได้มีเฉพาะหมอนหนุนคอหรือศีรษะเท่านั้น เพราะยามหลับเราไม่รู้ตัวหรอกว่าเราพลิกตัวยังไง ดังนั้นถ้าได้หมอนสุขภาพประเภทต่างๆ มาช่วย จะหลับสนิท ตื่นมาสดชื่นแน่นอน

1. หมอนหนุนเข่า เพราะหัวเข่าของเรามีลักษณะเป็นข้อพับ และตลอดวันมีส่วนในการรับน้ำหนักตัวและเคลื่อนไหว ดังนั้นเวลานอนถ้าได้หมอนข้างสักใบมาหนุนรอง ไม่ว่าจะเป็นหนุนใต้เข่าเวลานอนหงายหรือตะแคงก็จะช่วยบรรเทาไม่ให้มีการปวดหลังได้

2. หมอนหนุนศรีษะและคอ ควรเลือกขนาดพอเหมาะและไม่สูงเกินไป สังเกตได้จากเมื่อหนุนแล้ว หากนอนหงายหัวไหล่ทั้งสองข้างแนบกับพื้นที่นอนได้สนิท จัดเป็นหมอนที่สูงพอดีสำหรับเรา เพราะกรณีที่หมอนสูงเกินไป จะทำปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ ตลอดจนทำให้ทางเดินหายใจแคบจนทำให้นอนกรน